พิสูจน์พลังไฮบริดกับยานยนต์ปฏิวัติ LEXUS ES300h Luxury
รถซีดานหรูพลังไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 6 ประจำตระกูล ES เกิดจากการตกไลน์แยกย่อยสำหรับการทำตลาดให้มีความครอบคลุมและหลากหลาย จุดเริ่มที่เกิดจากความต้องการในการที่จะสร้างรถยนต์สี่ประตูดีๆ สักคันและต้องเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นรถญี่ปุนระดับพรีมียมที่ปราดเปรียวและมีสมรรถนะเทียบเท่าคู่แข่งจากยุโรป นอกจากนั้นยังต้องมีความสวยงามของรูปทรงและความหหรามีระดับของอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องโดยสาร เลกชัสจึงลงมือพัฒนา ES ต่อเนื่องมาจนถึงโมเดลปัจจุบัน นวคิดหรือจุดขายของNew ES300 เชื่อมโยงกับแนวทางแบบสปอร์ตของรุ่น GS แต่ ES ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า แตกต่างจากรุ่น GS ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง ความหรูหราผสานการขับที่สนุกและความสะดวกสบายจากความกว้างขวางของห้องโดยสาร โดยรถรุ่น Luuy วุ่นมาตรฐาน และรุ่น Prenum ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด จะมีการตกแต่งภายในที่มีความแปลกแยกแตกต่างกันออกไปตามระดับของราคา
รูปลักษณ์ด้านหน้าโดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าแบบ Spinde Gile ทรงสองชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ มีชนาดที่ใหญ่โตและคลุมบริเวณกึ่งกลางของด้านหน้าทั้งหมดเส้นสายรายละเอียดค้านข้างออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ โจบเจี่ยวด้วยไฟหน้าอัจฉริยะแบบโปรเจ็กตอร์ซีนอน พร้ชมด้วยไฟหรี่กลางวัน LED Dayime Running Light! สำหรับไฟหรี่กลางวัน LED Dayime ดีไซน์คล้ายหัวลูกศรซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ชองแบรนด์ ให้ความสวยงามลงตัวแบบเรียบหรู
ภายในทันสมัยใช้งานสะดวกสบายด้วย Cabin Spacousกess มิติห้องโดยสารที่มีสัดส่วนความยาวเป็นพิเศษ ช่วยลดความเมื่อยสำทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารแม้เดินทางใกล นอกจากนี้เบาะหน้าสามารถปรับให้ต่ำลงได้อีก 15 มม. ส่งผลให้พื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้น ให้ความสึกโปร่งโล่งสบาย หน้าจe Becto Mutb-Vision (EMV พร้อมระบu Navigaton System จอแสดงผลชนาด 8 นิ้วห้รายละเอียดภาพคมชัด รองรับแผนที่ ข้อมูลการจราจรและความบันเทิงเต็มรูปแบน Remote Touch Intertace (RTT ควบคุมการสั่งงานภายในรถได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสยังไม่หมดด้วยระบบ Rear Seat Controler แผงควบคุม ระบบการทำงานต่างๆ ภายในรถบริเวณที่พักวางแขนตรงกลางต้านหลัง ปรับปรุงใหมโดยคำนึงถึงทุกตำแหน่งที่นั่งภายในรถ ซึ่งเนันการใช้งานโดยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง
ขุมพลังขับเคลื่อนใช้เทคโนโลยี Hytnd Synergy Drive เพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ลดมลพิษจากไอเสีย และช่วยเพิ่มอัตราเร่งให้สูงขึ้น พลังงานจากมอตอร์ใช้ชับเคลื่อนร่วมกันกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 4 กระบอกสูบ 16 วาลัว มอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อบวกเข้ากับกำลังของเครื่องยนต์แล้ว ES300n จะมีกำลังมากถึง 205 แรงม้า หรือ 105 กิโลวัตต์ มากเกินพอในการใช้งานแบบปกติบนถนนทั่วไป รูปแบบการขับขี่เลือกปรับได้ 4 โหมด คือโหมด EV สำหรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ ให้ความงียบสงบในทุกการขับเคลื่อน โหมด Eco สำหรับความประหยัด โหมด Nomd สำหวับกาขับขี่แบบปกติและโหมด Spor เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ ทดลองเล่นสล็อตฟรี ระบบแรกที่ผมได้สัมผัสคือ Full Hybrid เนื่องจากรถติดพอสมควรการทำงานในระบบนี้ต้องวัดกันที่ความอึดของแบตเตอรี่ ซึ่งจะใช้ได้ยาวนานขนาดไหน สำหรับ ES300h วุ่น Luxuy ที่ผมทดสอบนั้นถือว่าสอบผ่าน เนื่องจากมีการจัดการระบบไฟฟ้ภายในรถมาเป็นอย่างดีพอช่วงถนนโล่งๆ ลองใช้ความร็วคงที่ประมาณ 120 กม/ชม. ก็ต้องแปลกใจกับรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมากๆ เพียง 1,750 รอบนาที สะท้อน ให้เห็นเลยว่าการเดินทางไกลๆ ในความเร็วประมาณนี้จะประหยัดน้ำมันแน่นอน ซึ่งตัวเลขที่ระบุมาก็น่ตกใจพอสมควร เนื่องจาก ES300 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 21 8 กม/ลิตร ส่วนในเรื่องอัตราเร่ง เมื่อคุณใช้โหมด Scor แค่อึดใจเดียวก็ 180 กม/ชม แบบสบายๆ แต่ความประทับใจของผมคงต้องยกให้กับความกว้างขวางและการเก็บเสียงในห้องโดยสารชั้นลิส มันเป็นรถที่มีการเก็บเสียงดีที่สุดคันหนึ่งของวงการซีดานรูขนาดกลาง ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินในการขับแม้ว่าระยะทางจะใกลก็ตาม อีกส่วนที่ช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นในการเดินทางลือระบมช่วงล่างที่นุ่มนวล ควมคุมง่ย แม้จะอยู่ในความเร็วสูง ES300 แบ่งเป็น 2 ซุนย่อยตามการตกแต่ง คือรุ่น Lหมy ราคา 3.49 ล้านมาท และ Penium ราค1 3 89 ล้านบาท
เข้าชม : 47
|